Prologue
[Ballinger’s Family
(1991)
คุณซามูเอลรู้จักกับคุณมัลลิกาผ่านจดหมายทางไกลมาเกือบยี่สิบปี ย้อนไปตอนที่ทั้งสองคนเรียนมัธยมปลาย สมัยนั้นการติดต่อกับเพื่อนนักเรียนในอีกซีกโลกเป็นเรื่องไกลตัว ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีการแชทไลน์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ลำพังจะเขียนจดหมายถึงใครสักคนก็เป็นเรื่องยากเย็นพอสมควร โดยเฉพาะคนที่เล่นสำนวนไม่เก่งอย่างคุณซามูเอล ผิดกับคุณมัลลิกาที่ไม่ว่าจะเขียนบทร้อยแก้ว หรือบทกวีณ์ใดๆ ใครได้เปิดอ่านต้องลงความเห็นว่าสำนวนดีลีลาเด็ดทั้งนั้น
เฉพาะจดหมายฉบับแรกที่ไปรษณีย์ส่งมาถึง คุณซามูเอลอ่านจบแล้วก็เอาไปเก็บไว้ในกล่องไม้ที่คุณย่าทำให้ในวันครบรอบสิบหกปีของเขา
ลักษณะเป็นกล่องรูปสี่เหลี่ยมด้านเท่า มีฝาเปิดด้านบน มีตัวล็อกอย่างแน่นหนาล้อมไว้ทั้งสี่ด้าน กล่องใบนี้ คุณซามูเอลรวบรวมจดหมายของคุณมัลลิกาเอาไว้ทุกฉบับ ตั้งแต่ฉบับแรกในวัยเรียนเรื่อยมาจนถึงฉบับสุดท้ายที่คุณมัลลิกาเขียนไว้อาลัยรีเบคก้า ภรรยาคนแรกของคุณซามูเอล
เบ็คกี้จากไปเพราะอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น หญิงสาวจากรัฐเมนพบรักกับชายหนุ่มจากนิวยอร์ก ตอนที่ทั้งสองคนเรียนคณะศึกษาศาสตร์ด้วยกัน วันแรกที่พูดคุย คุณซามูเอลรู้ในทันที เบ็คกี้คือคนที่ใช่ เขาแต่งงานกับเบ็คกี้ทั้งที่ยังเรียนไม่จบปีสุดท้าย
ช่วงเวลาเจ็ดปีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เบ็คกี้เป็นภรรยาที่ดีของคุณซามูเอล และเป็นแม่ที่ดีของแมทธิว ลูกชายวัยใกล้จะสามขวบ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู
หากเบ็คกี้ยังมีชีวิตอยู่ เธอคงได้เห็นแม็ททิวเติบโตขึ้นเป็นเด็กน้อยวัยหกขวบที่แสนจะอ่อนโยน หากก็แฝงไปด้วยจิตใจที่แข็งแกร่ง คงเส้นคงวา มีดวงตาแห่งความมุ่งมั่น และเอาใจเก่งเหมือนแม่ไม่มีผิดเพี้ยน
เบ็คกี้ต้องตายเพราะคนเมาบางคนที่บ้าระห่ำแท้ๆ หมอนั่นขับรถชนเบ็คกี้ในขณะที่เธอเดินเท้ากลับบ้านในตอนเย็น
เมื่อรู้ข่าวจากมิสซิสพาเวล เพื่อนบ้านผู้อารี เธอเป็นธุระดูแลแมทธิวอย่างดีในตอนกลางวัน พอเบ็คกี้เลิกงานที่ร้านขายขนมปังของมิสเตอร์เฟอร์กุสัน เธอจะไปรับแม็ท กลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงสองกำแพงกั้น
วันนั้นวันเสาร์ คุณซามูเอลรับโทรศัพท์จากทางบ้านพาเวล ภรรยาของสตีฟแจ้งข่าวร้ายว่าเบ็คกี้ถูกรถชน อาการเข้าขั้นโคม่า คุณซามูเอลช็อคจนทำอะไรไม่ถูก ตั้งสติอยู่หลายนาทีแล้วถามคุณปวีณาซึ่งอยู่ปลายสายด้วยเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ “เรียกหน่วยกู้ภัยหรือยัง”
“เรียบร้อยค่ะ เบ็คกี้ถึงมือหมอแล้ว เพื่อนสร้อยที่ล่วงหน้าไปกับกู้ภัยโทรมาบอกก่อนหน้าเมื่อครู่ พี่แซมรีบตามไปโรงพยาบาลเถอะ เดี๋ยวสร้อยดูแลน้องแม็ทให้จนกว่าพี่จะกลับนะคะ”
“โอเค พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้ ฝากแม็ทด้วยนะสร้อย”
“วางใจเถอะค่ะ น้องแม็ทเลี้ยงง่าย ไม่งอแงเลย จะฟูมฟายก็ต่อเมื่อแกรู้สึกไม่สบายตัวเท่านั้นล่ะ”
“ขอบใจ พี่ต้องไปแล้ว” คุณซามูเอลวางหูโทรศัพท์ลง แล้วรีบตะบึงรถไปโรงพยาบาลทันที ขณะขับรถ จิตใจคุณซามูเอลว้าวุ่น ความทรงจำตอนสุดท้ายผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ
ดึกสงัดคืนนั้น เขาดื่มด่ำกับรสรักจากเรือนร่างของเบ็คกี้ โอบกอดและจูบเธออย่างเร่าร้อน เบ็คกี้ตอบรับทุกสัมผัสที่เขามอบให้ ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกัน ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้อง บวกกับเสียงแซ็กโซโฟนเบาๆช่วยให้การร่วมรักเป็นไปอย่างราบรื่น ทว่าความสุขระหว่างเขากับภรรยาต้องมีอันจบลงเพราะ...
“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องจากอีกห้องทำคนทั้งคู่หยุดชะงัก “แม็ท แม็ทเป็นอะไร”
“สงสัยจะผวาตื่นน่ะแซม รีบไปหาแกเร็ว”
“แปลกจัง พักนี้ลูกเราผวาตื่นกลางดึกบ่อยๆ แกไม่อยากนอนคนเดียวหรือเปล่านะ”
เบ็คกี้วิ่งปราดไปที่ห้องเล็กข้างๆกัน คุณซามูเอลตามมาทัน หมุนลูกบิดประตูอย่างแรง แม็ทยังไม่หยุดร้องไห้ตอนเบ็คกี้อุ้มเขาไว้แนบอก
“แมตตี้ แม่อยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะลูกนะ”
“แม่อย่าทิ้งผม”
“ฝันร้ายเหรอจ๊ะ ... นอนเถอะนะลูก แม่จะไม่ทิ้งแม็ทหรอกจ้ะ”
“สัญญานะฮะ” แมทธิวยังสะอื้นขณะเอ่ยประโยคท้าย
“สัญญาจ้ะ ที่นี่จะมีพ่อ มีแม่ แล้วก็แม็ท เราจะอยู่เป็นครอบครัวด้วยกันตลอดไป นะลูกนะ”
เบ็คกี้กล่อมให้แมทธิวหลับได้สำเร็จ คุณซามูเอลลูบศีรษะลูกชายเบาๆ ขณะเบ็คกี้พูดประโยคเดิมซ้ำๆ สัญญาว่าจะอยู่เป็นครอบครัวตลอดไป แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่ว่าไว้ เบ็คกี้จากคุณซามูเอลกับลูกไปทั้งที่เข้ารักษาตัวยังไม่ถึงสองวันเต็ม
แพทย์เจ้าของไข้บอกว่าภรรยาคุณซามูเอลถูกรถชนยังไม่พอ เธอล้มหัวกระแทกพื้นและหมดสติ สมองถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ร่างกายบอบช้ำเกินจะยื้อชีวิตไว้ต่อไป สิ่งสุดท้ายที่เบ็คกี้ทำก่อนตาย คือ ยกมือขวาขึ้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีแตะศีรษะของแม็ทเป็นครั้งสุดท้าย มืออันแบบบางสัมผัสที่ไรผม ลมหายใจของเบ็คกี้ก็ขาดเป็นห้วงๆ แล้วเธอก็จากไปอย่างไม่หวนกลับ
เมื่อไม่มีเบ็คกี้ คุณซามูเอลก็เคว้งคว้าง เขาต้องทำงานคนเดียวและเลี้ยงดูแมทธิวไปพร้อมๆกัน บ่อยครั้งที่คุณสตีฟกับภรรยาพาเจสซี่มาเยี่ยม และเป็นเพื่อนเล่นกับแมทธิว ก็ช่วยให้คุณซามูเอลคลายกังวลได้บ้าง
วันหนึ่ง คุณปวีณาบอกข่าวว่าเพื่อนของเธอชื่อแหม่มจะพาหลานสาวชื่อโมรีมาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่นิวยอร์ก คุณซามูเอลดีใจที่สุด เพราะตั้งแต่เรียนจบ ต่างคนต่างก็ใช้ชีวิตบนเส้นทางที่ลิขิตไว้
คุณซามูเอลกับคุณมัลลิกาไม่ได้ติดต่อกันอีก จนวันที่เธอกับโมรีมาถึงนิวยอร์ก พอรู้ข่าวการจากไปของเบ็คกี้ เธอตัดสินใจอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเขา โมรีเลี้ยงดูแม็ททิวจนกลายเป็นพี่น้องที่สนิท และรู้จิตใจกันเป็นอันดี
จดหมายในกล่องไม้ของคุณย่า คุณซามูเอลหยิบมาอ่านอีกครั้ง คุณมัลลิกาเขียนไว้ว่า
“คุณรีเบคก้าเป็นภรรยาที่ดีของแซม เป็นแม่ที่ดีของแม็ท ไม่มีใครอีกแล้วที่จะหาความดีเทียมเท่าเธอได้ หลับให้สบายนะคะ ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว ฉันสัญญาจะดูแลแซมกับแม็ททิวให้ดีเท่าที่ผู้หญิงคนนี้จะทำได้ คุณรีเบ็คก้าจะอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป”
จากวันนั้นถึงวันนี้ คุณซามูเอลใช้ชีวิตกับคุณมัลลิกามาหลายปี แต่งงานและจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย หากแต่ไม่มีลูกใหม่ด้วยกัน เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง คุณมัลลิกาเองก็เข้าใจ เธอพูดกับคุณซามูเอลในวันครบรอบสี่ขวบของแมทธิว
“แหม่มจะรัก และเลี้ยงดูน้องแม็ทให้ดีเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้ เพราะลูกของแซมก็คือลูกของแหม่มเหมือนกันนะคะ”
“ผมก็จะดูแลคุณกับโมรีอย่างดีเช่นกัน ตอบแทนที่คุณสองคนรักผมแล้วก็รักแม็ทนะครับ”
คุณซามูเอลบอกพลางโอบรอบคอภรรยาไว้ บอกเธอด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
“ในจดหมายฉบับสุดท้ายเขียนไว้”
“ไม่มีใครอีกแล้วที่จะหาความดีเทียมเท่าเบ็คกี้ได้” แต่ผมหาเจอแล้ว คุณมัลลิกา ผู้หญิงที่ผมยินดีให้ใช้นามสกุล และยินดีให้เธอเป็นแม่คนที่สองของแม็ททิวโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งนั้น
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น